การรักษาเซลล์หลอดเลือดของมนุษย์ด้วย nicotinamide mononucleotide (NMN) ช่วยลดความชราและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน — ช่วยทั้งตัวกระบวนที่ทำให้เกิดความชราและโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดทั่วโลกและเกี่ยวข้องกับการลดลงของ NAD+ ที่สัมพันธ์กับอายุ ดังนั้นการบูสเตอร์เพิ่ม NAD+ ด้วย NMN สามารถยับยั้งการเกิด CVD ได้โดยการเพิ่ม NAD+ ที่หายไป
Dr. Nakajo และเพื่อนร่วมงานจาก DHC Corporation (*) จากญี่ปุ่น ได้นำเสนองานวิจัยใน Toxicology in Vitro ว่า NMN ช่วยยับยั้งความเสียหายที่เกิดจาก ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งการตอบสนองต่อความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันนั้น NMN จะลดสัญญานกระตุ้นของความชรา, เพิ่มการอยู่รอดของเซลล์ และทําให้ ROS เป็นกลาง นอกจากนี้ การลดความชราภาพและการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้น ยังได้รับผลจากทำงานของเอนไซม์ sirtuin-1 (SIRT1) ที่เกี่ยวข้องกับอายุยืน
"การค้นพบของเราให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับกลไกที่ NMN ออกฤทธิ์ป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของหลอดเลือด"
NMN ยับยั้งกระบวนการเสื่อมของเส้นเลือด
เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ชั้นในสุดของหลอดเลือดของเราที่เรียกว่า เซลล์บุผนังหลอดเลือด (ECs: endothelial cells) จะเริ่มลดลงทําให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิด CVD ดังนั้น Dr. Nakajo และเพื่อนร่วมงาน จึงทำการตรวจสอบผลกระทบของ NMN ต่อ ECs ของมนุษย์
นอกจากนี้ ความเครียดออกซิเดชัน ยังเชื่อกันว่า จะเป็นต้นเหตุการลดลงของ ECs ดังนั้นทีมนักวิจัย ใช้ สาร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) เข้มข้น ใส่เข้าไปใน ECs เพื่อเพิ่ม ROS ภายในเซลล์และทําให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
เพื่อประเมินการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทีมนักวิจัยได้ตรวจวัด Protein marker ของเซลล์ที่เสื่อมสภาพ 2 ตัว คือ p16 และ p21 ในการตอบสนองต่อ H2O2, พบว่าทั้ง p16 และ p21 มีค่าสูงขึ้นใน ECs ซึ่งบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพ ดังนั้นการให้สาร NMN จะช่วยยับยั้งการเพิ่มขึ้นของ p16 และ p21 ซึ่งชี้ให้เห็นว่า NMN ต่อต้านการเสื่อมสภาพได้
NMN ยับยั้งความชรา ในการตอบสนองต่อ H2O2 (column ที่สอง) ระดับโปรตีน p16 และ p21 (เส้นสีดํา) จะสูงขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพ แต่เมื่อให้ NMN จะยับยั้งผลของ H2O2 (column ที่สาม) โดยทำให้ p16 และ p21 ลดน้อยลว (เส้นสีดําจางๆ) ซึ่งบ่งบอกถึง การยับยั้งการเสื่อมสภาพ
อวัยวะและเนื้อเยื่อของเรา รวมถึงหลอดเลือดของเรา ประกอบด้วยเซลล์จํานวนมาก ดังนั้นโดยการทําลายเซลล์จนถึงจุดที่ทำให้เซลล์ตาย, ความเครียดจากออกซิเดชันนําไปสู่การเสื่อมสภาพและความผิดปกติของอวัยวะของเรา การเสื่อมสภาพดังกล่าวจะพบได้ในโรค เช่น CVD
ตัวอย่างเช่นเมื่อ ECs ผิดปกติ จะมีการผลิตสารที่ส่งสัญญาณเพื่อทำให้หลอดเลือดขยายตัวลดน้อยลง ซึ่งนําไปสู่การตีบแคบลงของหลอดเลือดแดง หลอดเลือดแดงแข็งตัวที่มีสาเหตุจากอายุ จะมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการเกิดโรค CVD (*)
Dr. Nakajo และเพื่อนร่วมงานพบว่า เมื่อ ECs สัมผัสกับ H2O2, จะมี ECs เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่รอดชีวิต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพิษของความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน อย่างไรก็ตาม การรักษา ECs ที่สัมผัสกับ H2O2 ด้วย NMN จะช่วยเพิ่มการอยู่รอดและการมีชีวิตของ ECs ซึ่งชี้ให้เห็นว่า NMN ต่อต้านผลที่ตามมาของความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
NMN ช่วยเพิ่มการอยู่รอดของเซลล์ เมื่อเทียบกับการไม่มี H2O2 หรือ NMN (สีขาว, 0 NMN), H2O2 ที่ไม่มี NMN (สีดํา, 0 NMN) ECs ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อให้ NMN ที่ความเข้มข้น 2 mM (สีดํา, 2 NMN) และ 4 mM (สีดํา, 4 NMN) พบว่า มีเซลล์ที่รอดชีวิตเพิ่มสูงขึ้น
ในการตรวจวัดค่า ROS ภายในเซลล์ Dr. Nakajo และเพื่อนร่วมงาน ใช้หัววัดเรืองแสงที่เรียกว่า CM-H2DCFDA เพื่อดูการตอบสนองต่อการสัมผัส H2O2, การผลิต ROS เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าภายใน ECs แต่เมื่อให้สาร NMN จะทำให้ค่า ROS ใน ECs ลดน้อยลง และได้ลองให้ NAC (N-acetyl cysteine เป็น ROS neutralizer) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงตัวหนึ่ง ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
NMN และ NAC ลดระดับ ROS ได้ผลเหมือนกัน H2O2 ที่ไม่มี NMN (ขีดเส้นใต้, 0 NMN) มีค่าสูงเกือบสองเท่าของระดับ ROS (การเรืองแสง CM-H2DCFDA) ภายใน HECs แต่เมื่อให้ NMN ตามขนาด 4 mM (ขีดเส้นใต้, 4 NMN) และปริมาณ NAC 10 mM (ขีดเส้นใต้, NAC) ช่วยลดระดับ ROS ลงได้
เพื่อตรวจสอบว่า NMN ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้อย่างไร Dr. Nakajo และเพื่อนร่วมงาน ทําการตรวจวัดซ้ํา ดัวยยาที่ขัดขวาง SIRT1, ( SIRT1 เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นยีนสําหรับสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในเซลล์)
พบว่าการขัดขวาง SIRT1 จะไปยับยั้งผลของ NMN ต่อการรอดชีวิตของเซลล์และการเสื่อมสภาพของเซลล์ การค้นพบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า NMN สามารถต่อต้านความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการเสื่อมภาพได้ โดยการกระตุ้น SIRT1 ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วย NAD+
NMN ยับยั้งโรคหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์
จากการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ทําโดย บริษัท DHC (*) แสดงให้เห็นว่า NMN ช่วยลดความฝืด (ตีบแคบ) ของหลอดเลือดแดงในคนวัยกลางคนที่มีน้ําหนักเกิน หรือมีระดับน้ําตาลในเลือดสูง ซึ่งหมายความว่า คนที่มีปัญหาจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญ อาจได้รับประโยชน์จากการกิน NMN เนื่องจากความฝืดของหลอดเลือดแดงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด CVD การลดความฝืดของหลอดเลือดแดงอาจจะช่วยยับยั้งการเกิด CVD ได้
นอกจากนี้ ทีมงานวิจัยจากฮาร์วาร์ดได้แสดงให้เห็นว่า NMN ช่วยลดความดันโลหิตในผู้ใหญ่ที่มีน้ําหนักเกินและเป็นโรคอ้วน (*) เนื่องจากความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญสําหรับ CVD, การศึกษานี้สนับสนุนความคิดที่ว่าบุคคลที่มีน้ําหนักเกินและเป็นโรคอ้วน, ที่มีแนวโน้มที่จะประสบจากความผิดปกติของการเผาผลาญจะได้รับประโยชน์จากการกิน NMN.
-----------------------
อ้างอิง
Nakajo, T., Kitajima, N., Katayoshi, T., & Tsuji-Naito, K. (2023). Nicotinamide mononucleotide inhibits oxidative stress-induced damage in a SIRT1/NQO-1-dependent manner. Toxicology in Vitro, 93, 105683. https://doi.org/10.1016/j.tiv.2023.105683
#drbunlue #NMP #NMN #NAD #ChapaGroupAndMadePhuwiang #ย้อนวัยไปกับ_drbunlue #antiaging #ชะลอวัย #สุขภาพดี #tiktokสุขภาพ #ลืมป่วย #healthy #healthycare #healthyfood #ดูแลสุขภาพ #มณีแดง #RedGem #โรคหัวใจและหลอดเลือด
Commenti