แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของ pterostilbene จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่การศึกษาหลายชิ้นที่ทำในมนุษย์ ทำให้เห็นประโยชน์อย่างมหาศาลของ pterostilbene
การศึกษาที่บ่งชี้ว่า pterostilbene มีศักยภาพที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ตั้งแต่การควบคุมน้ำหนัก ไปจนถึง การช่วยให้อารมณ์ที่ดีขึ้น และแม้แต่การเสริมสร้างระบบประสาท
ด้านล่างนี้เป็นผลจากการทดลองทั้งในคนและสัตว์ ที่พูดถึงผลของ pterostilbene ที่ดีต่อสุขภาพ และถือว่าปลอดภัยสําหรับการบริโภคของมนุษย์
สรรพคุณที่ได้จากการทดลองในมนุษย์
Pterostilbene ดูดซึมได้มากกว่า (Highly Bioavailability)
เมื่อพูดถึงอาหารและอาหารเสริม, คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่จะขึ้นได้ก็ขึ้นอยู่กับการดูดซึม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สารประกอบจะต้องง่ายต่อการบริโภค, การย่อยในทางเดินอาหาร และการนำส่งไปยังที่ที่จําเป็นต้องใช้งาน นี่เป็นเรื่องที่เกิดกับสารประกอบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ หรือยาก็ตาม
Pterostilbene เป็นสารที่สามารถดูดซึมได้สูงซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลัก ที่รู้กันดีในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ เรสเวอราทรอล มีไฮดรอกซิล (Hydroxyl group) 3 กลุ่มในโครงสร้าง, ในขณะที่ pterostilbene มีเพียงกลุ่มเดียว เนื่องจากกลุ่มไฮดรอกซิลช่วยในการเผาผลาญ และการมีไฮดรอกซิบเพียงกลุ่มเดียว นั่นหมายความว่า สารประกอบตัวนี้จะถูกเผาผลาญช้ากว่า
นักวิจัยรู้มาว่า โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทําให้ pterostilbene ย่อยง่ายขึ้น, มีเสถียรภาพมากขึ้น และมีศักยภาพในการดูดซึมของเซลล์มากขึ้นด้วย
Pterostilbene ช่วยลดความอ้วน
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจจากการทำวิจัย ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อมีการศึกษาแบบสุ่มและแบบควบคุมด้วยยาหลอก พบว่า ผู้เข้าร่วมมีน้ำหนักตัวลดลง ในขณะที่ได้รับอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ pterostilbene และสารสกัดจากองุ่น
ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม สองกลุ่มแรกได้รับ pterostilbene เพียงอย่างเดียวในปริมาณที่แตกต่างกัน, อีกกลุ่มหนึ่งได้รับ pterostilbene พร้อมกับสารสกัดจากองุ่น และสุดท้ายคือกลุ่มควบคุมที่ได้รับยาหลอก
หลังจาก 8 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมที่ได้รับส่วนผสมของ pterostilbene และสารสกัดจากองุ่น พบว่าความดันโลหิตและน้ำหนักตัวลดลง (R)
นักวิจัยให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษานี้ว่า "การศึกษาในอนาคต ควรประเมินการให้ pterostilbene ในขนาดที่สูงกับสารสกัดจากองุ่นในกลุ่มคนที่มีความดันโลหิตสูง" ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ความสนใจในการใช้สูตรผสม เพื่อช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
Pterostilbene ช่วยสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด
จากการศึกษาชิ้นหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า Pterostilbene มีฤทธิ์ในการป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว - Atherosclerosis (R) และอีกการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ช่วยเพิ่มกระบวนการ autophagy และช่วยในการต่อต้านผลการแข็งตัวของหลอดเลือดในเซลล์บุผนังหลอดเลือด (Endothelial cell) (R, R) นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Pterostilbene ในการใช้รักษาอาการบาดเจ็บจากการขาดเลือด (R)
ยังมีการศึกษา ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ pterostilbene ที่สัมพันธ์กับภาวะเสื่อมของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ และการศึกษาในหนูทดลองที่มีอายุแก่เร็วขึ้น แสดงให้เห็นว่า pterostilbene แม้ในปริมาณที่ต่ำ ก็มีผลอย่างมีนัยสําคัญในการเพิ่มความสามารถในการรับรู้ (R)
Pterostilbene มีอิทธิพลต่อการเผาผลาญพลังงาน
แม้ว่าจะไม่ใช่บทบาทหลักของ pterostilbene แต่สิ่งสําคัญที่ต้องพูดถึง คือ pterostilbene จะกระตุ้นการใช้งานโปรตีน AMPK ซึ่งเป็นตัวหลักในการควบคุพลังงานของเซลล์ให้อยู่ในสมดุล AMPK เป็นหนึ่งในสองระบบที่นำส่งสัญญาณ catabolic, อีกระบบหนึ่งคือ sirtuins; ทั้งสองระบบจะทํางานร่วมกันในวงจรสัญญานย้อนกลับ (feedback loop) และการส่งสัญญาณการขาดแคลนสารอาหาร (R) ระบบเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเผาผลาญพลังงานของเราและการลดการควบคุมของระบบนั้น คิดว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราแก่ชรา
การเพิ่มการทำงานของทั้งสองระบบนี้ เอื้อต่อสุขภาพและการมีอายุยืน (ในทางกลับกันเส้น IIS และ mTOR จะลดอายุอายุขัยลงเมื่อมีระดับเพิ่มขึ้น) เมื่อรวมกันแล้ว AMPK และ sirtuins จะตรวจจับสถานะพลังงานที่ต่ำ โดยการตรวจจับระดับ AMPK ที่สูงขึ้นและระดับ NAD สูงขึ้นตามลําดับ
การกระตุ้นการใช้งาน AMPK มีผลในเชิงบวกต่อการเผาผลาญ เช่นเดียวกับ autophagy (R) มันแสดงให้เห็นว่า มีอิทธิพลต่ออายุขัยในหนูที่ได้รับยาเมตฟอร์มิน ยิ่งไปกว่านั้น AMPK ยังยับยั้งเส้นทางการส่งสัญญาณ mTOR ซึ่งจะไปเพิ่ม autophagy (R, R)
ในที่สุด pterostilbene ยังช่วยเพิ่ม sirtuins ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการช่วยเรื่องมีอายุยืนยาวในการทดลอง ที่ให้จํากัดอาหารในสัตว์หลากหลายชนิด (R, R) Sirtuins ช่วยปรับกระบวนการเผาผลาญของเซลล์ ตามความพร้อมของสารอาหารและควบคุมการทํางานของการเผาผลาญหลายอย่าง รวมถึงการซ่อมแซม DNA, ความเสถียรของจีโนม, การตอบสนองต่อการอักเสบ, apoptosis, วัฏจักรของเซลล์และ การทํางานของไมโตคอนเดรีย
Pterostilbene ป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
ในอดีต มีทฤษฎีที่พูดถึง อนุมูลอิสระเป็นต้นเหตุของความชรา เป็นคําอธิบายที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า ทําไมเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจึงเสื่อมสภาพและตายไปตามกาลเวลา ปัจจุบัน มีทฤษฎีใหม่กําลังค่อยๆ มาแทนที่ทฤษฎีอนุมูลอิสระ ซึ่งทฤษฎีใหม่จะเน้นบทบาทของ epigenetics และเส้นทางทางพันธุกรรมที่ซับซ้อนเช่น sirtuins
แต่หลักฐานส่วนใหญ่ยังคงชี้ให้เห็นว่า อนุมูลอิสระเป็นอันตราย และนั่นคือจุดที่สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น pterostilbene เข้ามามีบทบาท สารต้านอนุมูลอิสระมีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระก่อนที่จะทําให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ด้วยคุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและดูดซึมได้สูง pterostilbene มีศักยภาพในการลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งจะช่วยลดอุบัติการณ์ของความเสียหายของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับอายุ คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของ pterostilbene ได้รับการสังเกตในการศึกษาของมนุษย์ จากการศึกษาในปี 2016 ที่ตีพิมพ์ในรายงานทางวิทยาศาสตร์ Pterostilbene ทําให้อนุมูลอิสระในเซลล์ตาเป็นกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการเพิ่ม superoxide dismutase 1 and peroxiredoxin-4 ตอนนี้ก็มีความหวังว่าฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระประเภทนี้ เกิดขึ้นในเซลล์และอวัยวะอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามจําเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
สรรพคุณที่ได้จากการทดลองในสัตว์ทดลอง
Pterostilbene ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน
ในปี 2017 ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของ pterostilbene และการจัดการน้ำหนัก ในการศึกษาหนึ่งนักวิจัยในฝรั่งเศสและสเปนค้นพบว่า pterostilbene จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นเนื้อเยื่อไขมันในร่างกาย (R)
ทีมวิจัยได้กล่าวในตอนท้ายของงานวิจัยถึง pterostilbene ที่มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในทางทฤษฎีของ Pterostilbene ในการ "ต่อต้านโรคอ้วน" และ "ต่อต้านโรคเบาหวาน"
การศึกษาครั้งที่สองในปี 2017 ลึกลงไปอีกเล็กน้อย นอกเหนือจากการเพิ่มความไวของอินซูลินแล้ว นักวิจัยยังพบว่า pterostilbene ช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อไขมันที่มีอยู่ ทำการสะสมไขมันและเติบโตขึ้น (R)
การศึกษาเพิ่มเติมในสัตว์และการเพาะเลี้ยงเซลล์ ชี้ให้เห็นว่า Pterostilbene อาจช่วยเพิ่มการผลิตอินซูลิน ในทางกลับกันระดับอินซูลินที่เพิ่มขึ้นทําให้น้ําตาลในเลือดลดลง จากผลกระทบที่ชัดมาก นักวิทยาศาสตร์บางคนได้เปรียบเทียบพลังของ pterostilbene เทียบเท่ากับยาที่แพทย์สั่งจ่ายในคนไข้โรคเบาหวาน - metformin (R)
Pterostilbene ช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
ในศตวรรษที่ 21 ได้เห็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการศึกษาและทําความเข้าใจเกี่ยวกับไมโครไบโอมของมนุษย์ การวิจัยชั้นนําในขณะนี้บ่งชี้ว่า มนุษย์มีเซลล์จุลินทรีย์ (Microbial cells) ประมาณ 10 ชนิด ได้แก่ แบคทีเรีย, ไวรัสและเชื้อราและอื่นๆ สําหรับทุกๆ 1 เซลล์ในร่างกายมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นการค้นพบ แกนลําไส้และสมอง (Gut-Brain Axis: GBA) ที่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์แบบสองทิศทางระหว่างไมโครไบโอมและสมอง
Pterostilbene ช่วยปรับเชื้อจุลินทรีย์ในลําไส้ ทําให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ในการศึกษาในหนูทดลอง pterostilbene แสดงให้เห็นว่า ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดพิเศษที่อาจมีบทบาทในการควบคุมน้ำหนัก ที่ดีต่อสุขภาพและการป้องกันโรคอ้วน นอกจากนี้ ยังช่วยอธิบายความสามารถของ Pterostilbene ในการช่วยลดน้ําหนัก, เช่นเดียวกับการปรับอารมณ์ในขณะที่ลดความวิตกกังวล (ดูด้านล่าง).
Pterostilbene ช่วยปรับอารมณ์และเพิ่มความจำ
โครงสร้างทางเคมีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pterostilbene ช่วยให้สามารถผ่าน blood-brain barrier ได้ เมื่อรวมกับผลกระทบต่อไมโครไบโอมในลําไส้ จะยิ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ทางด้านความจำความรับรู้และระบบประสาทอีกมากมาย
ในการศึกษาหนึ่ง หนูที่เลี้ยงด้วย pterostilbene ประมาณ 1-10 มก. ต่อ กก. ของน้ำหนักตัว พบว่า ความวิตกกังวลลดลงอย่างมีนัยสําคัญ (R) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนู ที่ไม่ได้ผ่านการตอบสนองที่ลดน้อยลงของการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นจุดเด่นของยาต้านความวิตกกังวลอื่น ๆ
เริ่องนี้ได้จุดประกายความสนใจ ในประสิทธิภาพของ Pterostilbene ที่เป็นทางเลือกจากธรรมชาติทั้งหมด สําหรับคนที่มีปัญหาและทุกข์ทรมานกับความวิตกกังวลและความผิดปกติ แม้ว่าจะจําเป็นต้องมีการวิจัยและการทดลองในมนุษย์มากขึ้นก็ตาม
Pterostilbene ช่วยป้องกันระบบประสาท, สร้างระบบประสาท และการป้องกันโรคอัลไซเมอร์
Pterostilbene ทำให้เกิดฤทธิ์ต่อต้านความวิตกกังวล และกระตุ้นการผลิตสารนำประสาท (Neurotransmitter) อาหาร เครื่องเทศและสมุนไพรหลายชนิด ก็มีความสามารถทำได้เช่นกัน แต่การสร้างเนื้อเยื่อสมองใหม่และปกป้องมันเป็นอีกเรื่องอื่น จากการศึกษาในสัตว์และเซลล์บางชนิด นั่นคือสิ่งที่ pterostilbene ก็สามารถทําได้เช่นกัน
จากการศึกษาในหนูทดลอง นักวิจัยค้นพบว่า การให้สารสกัดจากเลือดมังกร ซึ่งเป็นเรซินจากพืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่อุดมไปด้วย pterostilbene สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมองใน Hippocampus หลังจากการรักษาเพียง 4 สัปดาห์ (R) เป็นผลให้นักวิจัยสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ดีขึ้นและลดภาวะซึมเศร้าในอาสาสมัคร
การศึกษาในเซลล์ที่เพาะเลี้ยงในห้องทดลอง 2 รายงาน แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพของ pterostibene ในการปกป้องระบบประสาทเช่นกัน และอีกงานวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงสรรพคุณในการปกป้องเนื้อเยื่อสมองจากความเครียดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (R)
ในอีกงานวิจัยพบว่า อาหารที่อุดมด้วย pterostilbene ช่วยป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ (R) การค้นพบเหล่านี้แต่ละข้อมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากความสามารถในการสร้างและการเก็บรักษาเนื้อเยื่อสมอง เป็นสิ่งสําคัญยิ่งสําหรับการแก่ชราที่มีสุขภาพดี
Pterostilbene ช่วยเพิ่มการทำงานของหัวใจและตับ
ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระของ pterostilbene ยังได้รับการสังเกตจากการศึกษาในสัตว์และเซลล์ของดวงตา, หัวใจและตับ ซึ่งในแต่ละเซลล์ที่ใช้ทดลอง พบว่า pterostilbene ช่วยเพิ่มสุขภาพของเซลล์และการทํางานของอวัยวะ โดยการลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ในการศึกษาหนึ่ง นักวิจัยสังเกตเห็นผลของ pterostilbene ต่อหนูที่เป็นโรคหัวใจเนื่องจากปอด (pulmonary heart disease) โรคหัวใจจากปอด จะมีลักษณะไม่สมมาตรในรูปหัวใจ (ด้านขวาที่ขยายใหญ่ขึ้น) และการเต้นของหัวใจ ที่ผิดปกติ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ มีส่วนทําให้ความเครียดออกซิเดชันเพิ่มขึ้น
หลังจากได้รับ Pterostilbene ปริมาณตั้งแต่ 50-100 มก. ต่อกิโลกรัมของน้ําหนักตัว นักวิจัยพบว่า หนูทดลอง มีการตอบสนองของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีขึ้นเมื่อเผชิญกับความเครียดดังกล่าว (R)
การศึกษาที่คล้ายกัน ที่ทำเพื่อประเมินผลกระทบของ pterostilbene ต่อเซลล์ตับ ที่เสียหาย เนื้อเยื่อตับที่สัมผัสกับสารพิษตลอดเวลา เนื่องจากตับจะเป็นด่านแรกในการทําความสะอาดเลือดที่มาจากกระเพาะอาหารและลําไส้ ในกรณีที่อาการรุนแรง, อาหารที่ไม่ดีฅ การเสพติดและโรคพิษสุราเรื้อรัง อาจทําให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเนื้อเยื่อตับได้มาก
ในการศึกษากับหนูทดลอง pterostilbene แสดงให้เห็นว่า สามารถป้องกันรอยแผลเป็นที่เรียกว่าพังผืดในตับได้ (R)
อีกการศึกษาที่ดําเนินการในปี 2017 แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของ pterostilbene ในการปรับปรุงสุขภาพตับ โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า การลดการอักเสบน่าจะเป็นผลมาจากความสามารถของ Pterostilbene ในการกระตุ้นเส้นทางการส่งสัญญาณ SIRT-1 (sirtuin) (R)
Pterostilbene ช่วยลดการอักเสบ
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อันตรายของการอักเสบเรื้อรังและอักเสบทั้งระบบได้รับการศึกษาและเผยแพร่มากขึ้น การอักเสบในตอนนี้คิดว่า จะมีบทบาทที่เป็นสาเหตุให้เกิดหลายภาวะและโรค, มากกว่าเพียงแค่เป็นอาการ.
ด้วยเหตุนี้แพทย์และผู้บริโภคจึงให้ความสนใจกับสารประกอบ, พฤติกรรมและโปรโตคอลการรักษา ที่ป้องกันการอักเสบของทั้งระบบ ในการทําเช่นนั้นเชื่อว่า การแก่ก่อนวัยและการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอายุ สามารถชะลอตัวลงและอาจป้องกันได้ทั้งหมด
การศึกษาในหนูทดลองอย่างน้อย 2 รายงาน ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของ pterostilbene ในการป้องกันการอักเสบ ในการศึกษาปี 2017 ที่ตีพิมพ์โดยวารสาร Genetics and Molecular Research นักวิจัยพบว่า pterostilbene ช่วยปรับปรุงอาการที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อนอักเสบอย่างมีนัยสําคัญ (R)
ตับอ่อนอักเสบไม่เพียง แต่มีลักษณะการอักเสบที่รุนแรงเท่านั้น แต่ยังพบได้มากในชาวอเมริกันประมาณ 220,000 คน ต้องทนทุกข์ทรมานกับตับอ่อนอักเสบในแต่ละปี (R) สําหรับบุคคลเหล่านี้ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เช่น pterostilbene อาจช่วยบรรเทาอาการได้ในบางครั้ง สําหรับตอนนี้จําเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมและการทดลองในมนุษย์
ความสามารถในการต่อสู้กับการอักเสบของ Pterostilbene ได้รับการบันทึกเพิ่มเติมโดยการวิจัยโดยใช้เซลล์ ในการศึกษาปี 2016 ที่ตีพิมพ์โดยวารสาร Cytokine นักวิจัยได้ตรวจสอบผลของ pterostilbene ต่อ endoplasmic reticulum (ER) ของเซลล์เพาะเลี้ยง ER มีบทบาทสําคัญในการตอบสนองต่อการอักเสบ เช่นเดียวกับการสังเคราะห์โปรตีนและไขมัน
หลังจากสัมผัสกับ pterostilbene นักวิจัยทราบว่า ER ภายในเซลล์ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณการอักเสบ (R) สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของ pterostilbene ในการทําหน้าที่เป็นยาต้านการอักเสบในห้องปฏิบัติการ ทําให้เป็นตัวเลือกที่มีแนวโน้มสําหรับการนำมาใช้ทดลองในสัตว์และมนุษย์
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของ Pterostilbene
ในฐานะที่เป็นโพลีฟีนอลที่ได้จากพืช pterostilbene ถือว่า ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงที่สําคัญเมื่อบริโภคมากถึง 250 มก. ต่อวัน อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาข้อแม้บางประการ:
ควรปรึกษาแพทย์ของคุณเสมอก่อนที่จะใช้ pterostilbene หรือทําการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับอาหารหรือระบบการดูแลสุขภาพของคุณ
แม้ว่าจะเป็นพืชที่ได้มาจาก pterostilbene ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไป
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยของ pterostilbene เมื่อใช้กับเด็ก สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร ด้วยเหตุนี้จึงควรหลีกเลี่ยง pterostilbene เว้นแต่จะได้รับคําแนะนําจากแพทย์
pterostilbene ในปริมาณสูงอาจทําให้คอเลสเตอรอล LDL เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการศึกษาแนะนําว่า การใช้สารสกัดจากองุ่น อาจป้องกันการเพิ่มขึ้นของ LDL ได้ ในการศึกษาผู้เข้าร่วมได้รับสารสกัดจากองุ่น 100 มก. และ pterostilbene 50 มก. หากรับประทาน pterostilbene มากกว่า 50 มก. ผู้ใช้จะได้รับคําเตือนว่า การเพิ่มสัดส่วนในเมล็ดองุ่นอาจไม่ให้ผลเช่นเดียวกัน (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4099343/)
ปฏิกิริยากับยาอื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ (Potential Drug Interactions)
การศึกษาอย่างน้อยสองชิ้นระบุว่า pterostilbene มีปฏิสัมพันธ์เฉพาะเมื่อรวมกับ selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) และยาเคมีบําบัดบางชนิด ในการศึกษาหนึ่ง พบว่า pterostilbene เพิ่มผลของ SSRI sertraline
ในอีกทางหนึ่งพบว่า มีผลต่อยาเคมีบําบัด gefitinib (R)
ใครก็ตามที่ใช้ยาเหล่านี้หรือยาอื่นๆ ที่สามารถจัดเป็น SSRIs หรือยาเคมีบําบัดต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเสริมด้วย pterostilbene
ตามกฎทั่วไป, ทุกคนที่ใช้ยาตามใบสั่งแพทย์หรืออาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ของพวกเขาก่อนที่จะเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ pterostilbene.
สรุป: มองไปสู่อนาคตด้วย Pterostilbene
สิ่งสําคัญคือต้องจําไว้ว่า การวิจัยเกี่ยวกับ pterostilbene เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น ในมุมมองนี้ให้พิจารณา: ในช่วงเวลาของการเขียนนี้ (2022) การค้นหา "resveratrol" จะให้ผลลัพธ์มากกว่า 15,000 รายการบน PubMed.gov ซึ่งเป็นฐานข้อมูลของบทความทางวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์มากกว่า 30 ล้านบทความที่ดูแลโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)
แต่ถ้าค้นคำว่า “pterostilbene” จะได้ผลลัพธ์เพียง 706 รายการเท่าน้น
ในอีกด้านหนึ่ง มีอะไรให้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับ pterostilbene รวมถึงประโยชน์และความเสี่ยง ในทางกลับกันช่องว่างอันยิ่งใหญ่นั้น น่าตื่นเต้น ด้วยผลลัพธ์ในเชิงบวกมากมาย ในเวลาอันสั้นเราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าอนาคตของ pterostilbene จะเป็นอย่างไร
------------------------
#drbunlue #NMP #NMN #NAD #ChapaGroupAndMadePhuwiang #ย้อนวัยไปกับ_drbunlue #antiaging #ชะลอวัย #สุขภาพดี #tiktokสุขภาพ #ลืมป่วย #healthy #healthycare #healthyfood #ดูแลสุขภาพ #มณีแดง #RedGem #Pterostilbene #ย้อนวัย
Comments