top of page
Writer's picturedr.bunlue

สาเหตุผมหงอก? ... และ 13 วิธีรักษาผมหงอก

Updated: Dec 11, 2023


สาเหตุของผมหงอก และวิธีรักษา
สาเหตุของผมหงอก และวิธีรักษา

เมื่อเราอายุมากขึ้น ผมของเราจะสูญเสียเม็ดสีตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้สีผมเราจางลง หรือผมหงอกนั่นเอง แม้ว่ากระบวนการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการมีอายุมากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดและวิตกกังวลสําหรับคนที่ต้องการรักษารูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายคนสนใจ ที่จะหาวิธีชะลอป้องกันหรือแม้แต่ย้อนกลับผมหงอก อย่างไรก็ตามเป็นไปได้จริงหรือที่จะทําเช่นนั้น?


ในบทความนี้ เราจะมาดูสาเหตุของผมหงอกในเชิงชีววิทยาอย่างละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อทําความเข้าใจว่าทําไมมันถึงเกิดขึ้นและปัจจัยใดที่อาจนําไปสู่การพัฒนาการจนกลายเป็นผมหงอก นอกจากนี้ เรายังจะสํารวจวิธีรักษาและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ที่อาจช่วยชะลอหรือป้องกันการเกิดผมหงอก


สุดท้าย เราจะมาหาวิธีรักษาที่เป็นไปได้ ในการทำให้ผมหงอกย้อนกลับมาดำอีกครั้ง และแนะนำเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิธีการเหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการป้องกันไม่ให้ผมหงอกเกิดขึ้น หรือย้อนกลับมาดำอีกครั้ง บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึก ที่มีค่าเกี่ยวกับสัญญาณทั่วไปของความแก่ชรานี้


คนส่วนหนึ่งชอบให้ผมหงอก ซึ่งก็เป็นเรื่องของรสนิยม  แต่ก็มีหลายคนมีปัญหากับผมหงอก เพราะทำให้ดูไม่ดี อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปได้ ที่เราจะชะลออัตราการหงอกของผม และในบางครั้งก็เป็นไปได้ที่จะย้อนกลับผมหงอกให้กลับมาดำได้อีก อย่างที่เราเคยเห็น


ทําไมเราถึงมีผมหงอกตั้งแต่แรก?


ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำอธิบายเรื่องผมหงอกว่ามี 2 สาเหตุหลัก คือประการ:

  1. ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน - เซลล์ที่สร้างเส้นผมและสีของเส้นผม ได้รับความเสียหายจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน จะทําให้ผมมีสีน้อยลง

  2. การสูญเสียเซลล์ต้นกําเนิด - เมื่อเวลาผ่านไปเซลล์เหล่านี้จะถูกผลิตน้อยลงเนื่องจากความผิดปกติของเซลล์ต้นกําเนิด 




#สาเหตุผมหงอก: ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation Stress)


Melanocytes เป็นเซลล์ผลิตเม็ดสีเมลานินที่อยู่รอบรากผม และทำให้เส้นผมมีสี เซลล์เมลาโนไซต์จะผลิตเม็ดสีเมลานิน และปล่อยเข้าไปในเซลล์ขนที่สร้างเส้นผม เม็ดสีนี้เรียกว่า เมลานินทําให้ผมมีสีเฉพาะ


เม็ดสีเมลานินมี 2 ชนิด: eumelanin (ยูเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีเข้ม) และ pheomelanin (ฟีโอเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีอ่อน) คนที่มีผมสีดําส่วนใหญ่มียูเมลานิน ในขณะที่คนที่มีผมสีบลอนด์ จะมีฟีโอเมลานินจํานวนมาก


ยิ่งเราอายุมากขึ้น เซลล์เมลาโนไซต์ของเราก็ยิ่งสัมผัสกับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า โมเลกุลออกซิเดชันที่เป็นตัวทําลาย เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) ถูกผลิตในปริมาณที่มากเกินไปภายในเมลาโนไซต์ ซึ่ง H2O2 จะไปทําลายเซลล์เมลาโนไซต์


H2O2 (เรียกอีกอย่างว่า สารฟอกขาว) จะทําลายเซลล์เมลาโนไซต์ที่สร้างเม็ดสี ทำให้การผลิตเมลานินน้อยลง จึงทําให้ผมของเราเปลี่ยนเป็นสีเทา


แล้วทําไมการสะสมของ H2O2 จึงเกิดขึ้น? สาเหตุหลักก็คือ กระบวนชราภาพ นั่นเอง


ยิ่งเราอายุมากขึ้น เมลาโนไซต์ของเราก็จะยิ่งกําจัด H2O2 ได้น้อยลงเท่านั้น เซลล์ของเราผลิตโปรตีนน้อยลง ที่จะใช้กำจัดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เช่น คาตาเลส (Catalase) คาตาเลสที่ลดน้อยลงในเมลาโนไซต์ ที่มีอายุมาก หมายถึง การสะสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มากขึ้นด้วย และความเสียหายต่อเมลาโนไซต์ก็มากขึ้นตามไปด้วย (R) (R) (R)




#สาเหตุผมหงอก: สเต็มเซลล์ทำงานบกพร่อง (stem cell dysfunction)



เมลาโนไซต์ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยสเต็มเซลล์ (เซลล์ต้นกําเนิด) เมื่อเราอายุมากขึ้นสเต็มเซลล์เหล่านี้ จะได้รับความเสียหายและหลายเซลล์ก็ตายไปด้วย


ยิ่งสเต็มเซลล์ที่น้อยลง หมายถึงเมลาโนไซต์ที่ผลิตก็น้อยลงไปด้วย ซึ่งนําไปสู่เม็ดสีเมลานิน ที่สร้างขึ้นมาก็น้อยลงด้วย ทําให้ผมเป็นสีเทา


สเต็มเซลล์จะค่อยๆ ทำงานผิดปกติและทำงานน้อยลงอย่างต่อเนื่องและก็ตายในที่สุดเนื่องจากสาเหตุหลายประการ เหตุผลหนึ่งคือ การสะสมของความเครียดออกซิเดชัน ทำให้เซลล์ค่อยๆ เสื่อมสภาพลง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเซลล์เมลาโนไซต์


เหตุผลอื่น ที่ทําให้สระเซลล์ต้นกําเนิดเสื่อมสภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของ epigenetic, ความผิดปกติของไมโตคอนเดรีย, ความเสียหายของ DNA, การเสียสมดุลย์ของโปรตีน, การทําให้เทโลเมียร์สั้นลงและอื่นๆ สิ่งนี้นําไปสู่การลดน้อยลงเซลล์ต้นกําเนิด และทําให้การผลิตเมลาโนไซต์น้อยลงด้วย ซึ่งทำให้สีผมของเราเปลี่ยนไป (R,R)


นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลัก ที่ทําให้ผมของเราเปลี่ยนเป็นสีเทา แน่นอนว่า กระบวนการเหล่านี้สามารถเร่งได้จากหลายปัจจัย เช่น โภชนาการที่ไม่ดีต่อสุขภาพ, การสูบบุหรี่, ความเครียด และโรคเฉพาะ เช่น โรคเบาหวาน, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคโลหิตจาง หรือ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์


บทบาทของความเครียดในการทำให้ผมหงอก เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าความเครียดสามารถเร่งผมหงอกได้ เราคงคุ้นเคยและได้เห็นสิ่งนี้จากบรรดาเจ้าของกิจการ, ผู้นําและประธานาธิบดี ที่ระหว่างการดํารงตําแหน่ง สีผมของพวกเขาได้กลายเป็นสีเทามากขึ้นเนื่องจากความเครียด



ความเครียดเร่งให้ผมหงอกได้อย่างไร?


นักวิจัยค้นพบว่า เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะเครียด ปลายประสาท (nerve ending) ที่ไปยังเซลล์ต้นกําเนิดของ Hair follicle จะผลิตอะดรีนาลีน อะดรีนาลีนจะกระตุ้นเซลล์ต้นกําเนิดให้เคลื่อนออกจากตำแหน่ง (ด้านล่างสุดของรากผม) ไปยังบริเวณด้านบนของผิวหนัง สุดท้ายก็จะทำให้เซลล์ต้นกำเนิดตาย


สาเหตุนี้ นําไปสู่การลดน้อยลงของสเต็มเซลล์ สเต็มเซลล์ที่น้อยลงหมายถึง การผลิตเมลาโนไซต์น้อยลงซึ่งมีต้นกําเนิดมาจากเซลล์ต้นกําเนิด ซึ่งหมายความว่า เม็ดสีเมลานินที่น้อยลงไปด้วยและทําให้ผมหงอกมากขึ้น (R)


นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ที่สามารถเร่งให้ผมหงอกได้ เช่น พันธุกรรม, การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด (มีในรายการด้านล่างนี้), ฮอร์โมน, การอักเสบ, แสงอัลตราไวโอเลต, มลพิษสารพิษ, และยาเฉพาะบางชนิด (R)




วิธีรักษาอาการผมหงอก 13 วิธี


มีหลายวิธีรักษาและชะลออาการผมหงอกได้ วิธีการรักษาที่สําคัญคือ การบริโภควิตามินและแร่ธาตุเฉพาะในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญมากสําหรับการบํารุงรักษาและป้องกันเซลล์ต้นกําเนิดและเซลล์เมลาโนไซต์


1. รับประทานแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งมีความสําคัญต่อความแข็งแรงของเส้นผม


เซลล์เมลาโนไซต์ต้องการแร่ธาตุเฉพาะ เพื่อสร้างเม็ดสีเมลานิน (กระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เรียกว่า "melanogenesis") เช่น ทองแดง สังกะสี เหล็ก และแคลเซียม (R,R)


แร่ธาตุที่สําคัญอื่นๆ สําหรับผมสุขภาพดีคือ ซีลีเนียม และ แมกนีเซียม


คนที่ขาดแร่ธาตุสําคัญเหล่านี้ มีความเสี่ยงมาก ที่ผมจะเปลี่ยนเป็นสีเทา แร่ธาตุที่สําคัญอีกตัวหนึ่ง

สําหรับสุขภาพของเส้นผมคือ ไอโอดีน ไอโอดีนเป็นส่วนประกอบสําคัญในฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างเม็ดสีผม ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์จํานวนมากสามารถนําไปสู่การเร่งให้ผมหงอกได้ (R)



2. รับประทานวิตามิน


  • Vitamin B - มีความสําคัญต่อสุขภาพเส้นผม โดยเฉพาะวิตามินบี 12 (R, R) จะเป็นการดีที่สุดที่จะใช้วิตามินบีรวม (Vitamin Bco) ที่มีวิตามินบีทั้งหมด แทนที่จะทานวิตามินบีเพียงตัวเดียวหรือวิตามินบีสองสามตัว: วิตามินบีมีผลเสริมฤทธิ์กัน

  • Vitamin D - การลดน้อยลงของวิตามินดี มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของผมหงอกก่อนวัยอันควร

  • Vitamin C - การรับประทานวิตามินซี จะช่วยเพิ่มระดับกลูตาไธโอนและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่สามารถลดความเครียดออกซิเดชันในเซลล์รูขุมขน - hair follicle cells (R).

  • Vitamin A: วิตามินเอเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับผมสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ต้องระวังอย่าทานวิตามินเอมากเกินไป (ควรน้อยกว่า 2500 IU ต่อวัน)  

  • การขาดธาตุเหล็ก มีความสัมพันธ์กับผมหงอก

  • การขาดธาตุทองแดง (copper) ส่งเสริมให้ผมหงอกได้

  • การรับประทานโปรตีนที่น้อยเกินก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหงอกเร็ว



3. อาหารสุขภาพ


อาหารเพื่อสุขภาพมีสารหลายชนิดที่สามารถลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันในเซลล์ต้นกําเนิดรูขุมขน (hair follicle stem cells) และเมลาโนไซต์


นอกจากนี้ รูปแบบอาหารเพื่อสุขภาพยังให้วิตามินแร่ธาตุและสารอื่นๆ ที่จําเป็นสําหรับการรักษาเซลล์ผมของคุณให้แข็งแรงให้นานที่สุด


การกินผักจํานวนมาก (โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม และ ผักกะหล่ําปลี) ผลไม้หลากสี (โดยเฉพาะ บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และส้ม) ถั่ว (โดยเฉพาะวอลนัท) และเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดฟักทอง


ฟลาโวนอยด์ สามารถชะลอกอาการผมหงอก (R) ฟลาโวนอยด์พบได้ในปริมาณมากในผลไม้ที่มีสีสดใสและในผัก เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ส้ม ผักใบเขียว และ ในดาร์กช็อกโกแลต หัวหอม สมุนไพร และชา


ปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง สําหรับผมหงอกก่อนวัยอันควร คือ อาหารมังสวิรัติ (R) ในขณะที่การกินเนื้อสัตว์น้อยลงอาจดีต่อสุขภาพ แต่บ่อยครั้ง ที่การกินมังสวิรัติ ทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุที่สําคัญ เช่น วิตามินบี 12 สังกะสี และ ธาตุเหล็ก ซึ่งเซลล์ต้นกําเนิดของเส้นผมและเมลาโนไซต์จําเป็นต้องใช้เพื่อให้การทํางานอย่างเหมาะสม ความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จําเป็นในอาหารมังสวิรัติสามารถใช้อธิบายเหตุผลของ อาการเริ่มต้นของศีรษะล้านที่พบในผู้ชายที่กินมังสวิรัติบางคน


ในทางกลับกัน การกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์จํานวนมาก (เช่นเนื้อสัตว์และนม) อาจทําให้ผมหงอกและศีรษะล้านก่อนวัยอันควร เนื่องจากอาหารจากสัตว์ที่มากเกินไป จะกระตุ้นกลไกความชราได้ (เช่น mTOR, IGF และ Insulin pathway) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นมเป็นตัวการกระตุ้นเปิดการทำงานกระบวนการชราภาพ นอกจากนี้ นมยังมีกาแลคโตส ซึ่งทําให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันอย่างมากในเซลล์ (R) ซึ่งอาจนําไปสู่ผมหงอกเร็วขึ้น


อาหารที่ได้สมดุล ควรประกอบด้วยผักและผลไม้เป็นส่วนใหญ่และ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์บ้างเพียงเล็กน้อย ถึงปานกลาง จะเหมาะที่จะช่วยเรื่องผมหงอกได้ แต่หากเป็นไปไม่ได้, อาหารเสริมน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม.


ทีมงาน dr.bunlue ได้พูดถึงบทความ SIRT food ที่อธิบายเรื่องอาหารที่ช่วยให้อายุยืนตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยเข้าใจและเลือกบริโภคได้อย่างเหมาะสม



4. เมลาโตนิน (Melatonin)


เมลาโทนินเป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเองได้ เพื่อเตรียมเราให้พร้อมสําหรับการนอนหลับที่มีคุณภาพ เมลาโทนินสามารถลดอาการผมหงอกได้และเพิ่มเม็ดสีของเส้นผมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเมลาโตนินมีผลต่อการป้องกันเซลล์รวมถึงเซลล์ต้นกําเนิด (R,R)


นอกจากนี้ยังมีการใช้สารเมลาโตนินในการรักษาอาการผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia) (R)



5. โสมอินเดีย (Ashwagandha)


นี่คือสมุนไพรที่สามารถลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ผลดี จากการศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ทานโสมอินเดียมานานกว่าหนึ่งปี จะช่วยลดความเครียดได้ดี (R) ซึ่งจะมีผลต่อการเพิ่มเม็ดสีผมมากขึ้น



6. เลิกสูบบุหรี่


การสูบบุหรี่เร่งให้ผมหงอกเร็วขึ้น (R,R) สารพิษจากควันจะเข้าสู่กระแสในเลือดและเข้าสู่เซลล์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินของเส้นผม ซึ่งนําไปสู่ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เพิ่มขึ้นและความเสียหายในรูปแบบอื่นๆ ตามมา



7. เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกิน


การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจทําให้เซลล์ในร่างกายของคุณเกิดสารพิษมากเกินและนําไปสู่การหงอกของเส้นผมได้เร็วขึ้น (R,R).



8. ลดความเครียด โดยเฉพาะความเครียดเรื้อรัง


ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว ความเครียดสามารถเร่งผมหงอกได้ (R) พยายามนั่งสมาธิให้มากขึ้นและเปลี่ยนรูปแบบการคิดให้เครียดน้อยลง หรือหาอะไรทำที่ช่วยให้ลดความเครียดได้



9. เลี่ยงยาบางชนิด


ยาบางชนิดอาจทําให้ผมหงอกได้ เช่น ยาต้านมาลาเรีย และยาเคมีบําบัดต่างๆ เป็นต้น



10. ใช้ Pseudocatalase cream


จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ครีมทาที่มี pseudo-catalase สามารถลดความเครียดออกซิเดชันและทําให้เกิดการ repigmentation บางส่วนได้ (R).



11. Platelet-rich plasma (PRP)


มีรายงานบางฉบับว่า การรักษาซ้ําหลายครั้ง ด้วยพลาสมาที่อุดมด้วยเกล็ดเลือดฉีดเข้าไปในหนังศีรษะ อาจทําให้ผมกลับมาดำอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ยังคงรอการทำวิจัยเพิ่มเติมและได้รับการรับรอง



12. ยาและอาหารเสริมเพื่อชะลอผมหงอก


มีบริษัทหลายแห่ง ที่กําลังทํางานวิจัยเกี่ยวกับยาเม็ด ที่สามารถทำผมสีกลับมาได้ บางบริษัท ก็มุ่งเน้นไปที่เ Wnt/beta-catenin signaling pathway (คือกลุ่มของเส้นทางการส่งสัญญาณ ซึ่งเริ่มต้นด้วยโปรตีน ที่ส่งสัญญาณไปยังเซลล์ผ่านตัวรับที่ผิวเซลล์ ชื่อ Wnt) บริษัทเครื่องสําอางขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ลอรีอัล กําลังมุ่งเน้นไปที่ยาเม็ดที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารธรรมชาติอื่นๆ เพื่อชะลอผมหงอก



13. หยุดการทำลายผม


สเต็มเซลล์ในรูขุมขน (Hair follical stem cells) เปราะบางมาก หากคุณฟอกสีผม หรือให้หนังศีรษะสัมผัสกับแสงยูวีมากเกินไปหรือความร้อนมากเกินไป (จากเตารีดดัดผมหรือไดร์เป่าผม) คุณเสี่ยงต่อการทําลายหรือทําให้เซลล์ต้นกําเนิดที่เปราะบางเสียหาย และทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น




เราสามารถเปลี่ยนผมหงอกให้กลับมาดำเหมือนเดิมได้ด้วยวิธีรักษาได้หรือไม่?


มีรายงานกรณีของคนที่ผมหงอกแล้วสามารถกลับมามีสีผมเหมือนเดิมได้ ตัวอย่างเช่น นักประสาทวิทยารายงานว่า ผู้หญิงที่ได้รับสารสกัดจาก Mucuna pruriens สามารถเปลี่ยนผมสีขาวกลับมาเป็นสีดําอีกครั้ง (R).


Mucuna pruriens บางครั้งเรียกว่า ถั่วกํามะหยี่เบงกอล (Bengal velvet bean) บางครั้งใช้เป็นยาเสริมทางเลือกสําหรับโรคพาร์กินสัน Mucuna puriens มี L-dopa ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของโดปามีนซึ่งเป็นสารที่ขาดไปในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน L-dopa ยังเป็นสารตั้งต้นของเม็ดสีเมลานิน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่บางครั้งอาหารเสริมและยาต้านพาร์กินสันบางชนิดทำให้ผมหงอกดีขึ้นได้ (R)


อีกตัวอย่างอื่นของคนผมหงอกที่กลับมาดีขึ้น พบได้ในผู้ป่วยมะเร็งบางราย ที่ได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบําบัด: พวกเขารายงานว่า ผมหงอกของพวกเขาเริ่มเข้มขึ้นอีกครั้ง (R).  


มีหลายรายงานของคนที่ได้รับสีผมของพวกเขากลับมาหลังจากการใช้ยาเฉพาะ ยาเหล่านี้มักเป็นยาต้านการอักเสบ (เช่น adalimumab), ตัวกระตุ้นการผลิตเม็ดสี (erlotinib, levodopa, erlotinib) หรือวิตามิน (เช่นวิตามินบีเฉพาะ) (R)


ยาที่กล่าวมาเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงเชิงลบร้ายแรง ดังนั้นจึงไม่แนะนําให้เริ่มใช้ยาเหล่านี้เพื่อเปลี่ยนสีผมของคุณ



สรุป


ผมหงอกเป็นสัญญาณทั่วไปของความชราที่หลายคนประสบ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่รับประกันในการย้อนกลับหรือป้องกันอาการผมหงอกได้ วิธีรักษาแบบเยียวยาแบบธรรมชาติมากมายและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่คุณสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมที่มีสุขภาพดีและฟื้นฟูสีผมตามธรรมชาติของคุณ.





Comments


สินค้าขายดี

bottom of page