การนอนช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ดีที่สุด!
- dr.bunlue
- 6 days ago
- 3 min read

หลายคนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย และการกินโปรตีน แต่ “ละเลยเรื่องการนอน”
ความจริงแล้ว... “การนอน” คือหัวใจของการฟื้นฟูและสร้างกล้ามเนื้อโดยธรรมชาติ
ถ้าคุณกำลังออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อสร้างกล้าม หรือแค่ต้องการมีร่างกายที่แข็งแรงในวัย 40+ - อย่ามองข้ามคุณภาพของการนอนเด็ดขาด!
ทำไมการนอนจึงสำคัญต่อกล้ามเนื้อ?
1. การนอนหลับลึก vs โกรทฮอร์โมน: หัวใจสำคัญของการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
ระหว่างการนอนหลับลึก (Deep sleep - ระยะ N3) ร่างกายเราจะหลั่ง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ฟื้นฟู กระดูก ผิวหนัง เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่เสียหายจากการออกกำลังกาย โดยโกรทฮอร์โมนจะหลั่งสูงสุดช่วง **5 ทุ่มถึงตี 1.30** จะเห็นว่าช่วงก่อนเที่ยงคืน! (R)
ดังนั้น หากเราเข้านอนหลัง 5 ทุ่ม ร่างกายอาจเข้าสู่ระยะหลับลึกไม่ทัน ทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งน้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวช้า
จากงานวิจัยพบว่า: นักบาสเกตบอลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่เพิ่มเวลานอนเพิ่มเป็น 10 ชั่วโมง/คืน พบว่า วิ่งเร็วขึ้น 9% และมีความแม่นยำสูงขึ้น (R)
-------
หมายเหตุ: Growth Hormone (GH) หรือ "ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต" คือฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมอง ทำหน้าที่กระตุ้น
การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและกระดูก
การซ่อมแซมเซลล์
การเผาผลาญไขมัน
กระบวนการชะลอวัย และฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหรือเจ็บป่วย
-------
กระบวนการ “สังเคราะห์โปรตีน” เกิดขึ้นตอนนอน
การสังเคราะห์โปรตีน เป็นกระบวนการที่ร่างกาย นำกรดอะมิโน (จากอาหารที่เรากิน เช่น เนื้อ นม ไข่ เวย์ ฯลฯ) ไปใช้ซ่อมแซม กล้ามเนื้อที่เสียหายจากการออกกำลังกาย และเปลี่ยนให้กลายเป็น “กล้ามเนื้อใหม่” ที่แข็งแรงขึ้น
🧡 แล้วเกี่ยวอะไรกับการนอน?
หลังจากที่เราออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะเกิดการบาดเจ็บเล็กๆ หรือ การฉีกขาดระดับจุลภาค (Micro tear) ร่างกายจึงจำเป็นต้องเข้าไป “ซ่อมแซม” และกระบวนการนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นตอนออกกำลัง
แต่มันเกิดขึ้นมากที่สุด ตอนที่เรานอนหลับสนิท โดยเฉพาะช่วง หลับลึก (Deep Sleep)
💚 การนอนหลับ เปรียบเสมือนโรงงานซ่อมกล้ามเนื้อ
ระหว่างที่เรานอนหลับ...
ร่างกายจะ ลดการใช้พลังงานลง → ทำให้มีพลังเหลือเพียงพอสำหรับการซ่อมแซม
ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสร้างกล้าม (GH, IGF-1, Testosterone) จะหลั่งสูงขึ้น
กล้ามเนื้อที่บาดเจ็บจะถูกซ่อมแซมและเสริมสร้าง ให้โตขึ้น (เหมือนการซ่อมถนนให้ใหญ่ขึ้น)
ดังนั้น ต่อให้คุณกินโปรตีนดีและมากพอ แต่ถ้านอนไม่เพียงพอ → กรดอะมิโนที่กินเข้าไป จะไม่ได้ถูกใช้สร้างกล้าม แถมอาจถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน หรือเก็บสะสมเป็นไขมันแทนอีกด้วย
📌 งานวิจัยที่ยืนยัน
Res et al., 2012 (Journal of Nutrition) พบว่า เมื่อให้คนออกกำลังกายเวท แล้วกิน casein protein 40 กรัมก่อนนอนระหว่างการนอน ร่างกายสามารถดูดซึมกรดอะมิโน และสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ (R)
Dattilo et al., 2011 (Medical Hypotheses) รายงานว่าการนอนไม่พอเพียงแค่ 1–2 คืน สามารถลดการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามได้ถึง 18% (R)
💡 สรุป:
เวลานอน = ช่วงซ่อมกล้าม
นอนไม่พอ = กล้ามไม่ฟื้น + โตยาก
ถ้าจะให้ “กล้ามเนื้อโตไว ฟื้นตัวเร็ว” → ต้องให้เวลากับการนอนพอๆ กับการกินและการออกกำลังกายแบบยกน้ำหนัก
การนอนช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol)
Cortisol คืออะไร? . . . ที่หลายคนเรียกว่า “ฮอร์โมนความเครียด” เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างจาก ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) ทำหน้าที่ช่วยให้เรารับมือกับความเครียด เช่น เร่งหัวใจ เพิ่มน้ำตาลในเลือด ฯลฯ ซึ่งดีในระยะสั้น แต่ถ้าคอร์ติซอลสูงเรื้อรังนานๆ จะเป็นอันตรายต่อสุรขภาพได้
💢 การนอนช่วยลด Cortisol ได้ยังไง?
1. ช่วงที่หลับลึก (Deep Sleep) เป็นช่วงที่ร่างกายหยุดผลิต Cortisol ดังนั้นเมื่อนอนหลับสนิท Cortisol จะถูกกดให้ต่ำสุดโดยอัตโนมัติคล้ายกับ "การรีเซ็ตระบบความเครียด"
2. นาฬิการ่างกาย (Biological Clock) จะปรับ Cortisol ให้อยู่ในจังหวะปกติ
ถ้านอนหัวค่ำ → Cortisol จะค่อยๆ สูงตอนใกล้เช้า (เพื่อปลุกให้ตื่นอย่างสดชื่น)
แต่ถ้านอนดึก → Cortisol จะค้างสูงนาน → หลับไม่ลึก ฟื้นตัวแย่ลง
3. การนอนสนิท = ลดความเครียดสะสมในระบบประสาท
มีงานวิจัยพบว่า เพียงแค่ได้นอนเต็มอิ่ม 7–8 ชั่วโมง ก็สามารถลดระดับ Cortisol ได้อย่างชัดเจนในคนวัยทำงานที่เครียดสะสม
📌 งานวิจัยที่น่าสนใจ
Leproult & Van Cauter, JAMA, 2011 พบว่า คนที่นอนแค่ 5 ชั่วโมง/คืน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ → Cortisol เพิ่มสูงขึ้นชัดเจน และมีผลต่อการสูญเสียกล้ามเนื้อและลดฮอร์โมนเพศชาด้วย (R)
Spiegel et al., The Lancet, 1999 รายงานว่า การนอนเพียง 4 ชั่วโมงต่อคืน เป็นเวลา 6 คืน ทำให้ระดับ Cortisol สูงขึ้นตลอดวัน แม้ตอนพักผ่อน (R)
สรุป:
ถ้าเรานอนหลับสนิท ร่างกายจะ “กด Cortisol ให้ลดลง” โดยอัตโนมัติเหมือนการกดเบรกความเครียด และเปิดโหมดฟื้นฟูให้ร่างกายนอนดี = Cortisol ต่ำ = กล้ามเนื้อไม่โดนสลายง่าย ฟื้นตัวไวกว่าเดิม
-------
ปรับสมดุลฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
Testosterone คืออะไร? . . . คือ “ฮอร์โมนเพศชาย” ที่มีบทบาทสำคัญมากในร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่อง...
การสร้างกล้ามเนื้อ (anabolic hormone)
การเผาผลาญไขมัน
ความแข็งแรงของกระดูก
สมรรถภาพทางเพศ
พลังงาน ความมั่นใจ และอารมณ์
แม้ในผู้หญิงก็มีฮอร์โมนนี้เช่นกัน (ในปริมาณน้อย) และมีความสำคัญต่อมวลกล้ามเนื้อและความรู้สึกกระฉับกระเฉงด้วยเช่นกัน
🔵 การนอนสัมพันธ์อย่างไรกับฮอร์โมนนี้?
1. การนอนที่เพียงพอ จะช่วยให้ Testosterone หลั่งได้เต็มที่ เนื่องจาก Testosterone จะหลั่งมากที่สุดในช่วงที่เราหลับลึก (deep sleep) ดังนั้น ถ้านอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง/คืน ร่างกายจะลดการผลิตฮอร์โมนนี้ลง
📌 งานวิจัยอ้างอิง:
Leproult & Van Cauter, JAMA, 2011 พบว่า ผู้ชายวัย 20–30 ปีที่นอนแค่ 5 ชั่วโมง/คืน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ → ระดับเทสโทสเตอโรนลดลงเฉลี่ยถึง 10–15% (R)
2. การนอนไม่เพียงพอ ทำให้มีการสะสมความเครียดมากขึ้น → Cortisol สูง → กด Testosterone
Cortisol (ฮอร์โมนเครียด) จะยับยั้งการสร้าง Testosterone โดยตรง
ดังนั้น คนที่นอนไม่พอ มีแนวโน้มที่กล้ามเนื้อจะไม่เพิ่มขึ้น และ อ้วนไขมันลงพุงได้ เพราะฮอร์โมนผิดสมดุล
3. Testosterone ต่ำในวัย 40+ คือเรื่องปกติ แต่เราชะลอการลดต่ำลงนี้ได้
หลังอายุ 30–35 ปี ร่างกายจะลดการผลิต Testosterone ลงเรื่อยๆ ประมาณ 1%/ปี
แต่ถ้า นอนหลับดี + ออกกำลังกายแลลเวทเทรนนิ่ง + อาหารที่เหมาะสม จะช่วยให้ระดับฮอร์โมนนี้คงอยู่ได้นานขึ้นและลดความเสื่อมของร่างกายได้
📌 งานวิจัยอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
Andersen et al., Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism, 2007
พบว่า คุณภาพการนอนส่งผลต่อการสร้างฮอร์โมนเพศชายอย่างชัดเจน คนที่มีการหลับลึกน้อยจะมีระดับ Testosterone ต่ำกว่ากลุ่มที่นอนหลับดี (R)
Penev, Sleep, 2007 คนที่นอนน้อยกว่าคืนละ 5 ชม. มีแนวโน้มเกิดภาวะฮอร์โมนต่ำ (hypogonadism) และอาจมีผลต่อภาวะมีบุตรยากในชาย (R)
💡 สรุป:
การนอนดี = ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ดี
นอนไม่พอ = เทสโทสเตอโรนลดลง กล้ามไม่ขึ้น อารมณ์ตก ไขมันลงพุง
💢 ทิปน่ารู้ที่มีผลต่อการนอนและการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
# 1. วงจรการนอนหลับ: ทำไมต้องนอนให้ครบทุกระยะ?
การนอนหลับใน 1 คืน จะประกอบด้วย 2 ระยะหลัก ดังนี้:
NREM (Non-REM): ช่วงหลับลึกที่ร่างกายซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
REM (Rapid Eye Movement): ช่วงฝันที่สมองจัดระเบียบความจำ
หากนอนไม่ครบวงจร (เช่น ตื่นกลางดึกบ่อย) ร่างกายจะไม่สามารถฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เต็มที่ ทำให้ตื่นมาเพลีย แม้จะนอนนาน
# 2. ปัจจัยที่ทำลายการฟื้นฟูกล้ามเนื้อระหว่างนอน
แสงสีฟ้า: จากมือถือ/คอมพิวเตอร์ ก่อนนอน: ยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน (ฮอร์โมนช่วยหลับ)
ออกกำลังกายหนักก่อนนอน: เพิ่มอุณหภูมิร่างกายและกระตุ้นระบบประสาท
อาหารมื้อหนัก/แอลกอฮอล์: รบกวนระบบย่อยและทำให้หลับไม่ลึก
ความเครียด: เพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอลที่สกัดการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
# 3. เทคนิค "นอนหลับลึก" สำหรับนักกีฬาและคนรักสุขภาพ
เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ระยะหลับลึกได้ทันเวลา
ปรับห้องนอน ให้มืด เงียบ อุณหภูมิ 20-22°C และใช้เตียงสำหรับนอนเท่านั้น
กินโปรตีน+คาร์โบไฮเดรต หลังออกกำลังกาย 90 นาที เพื่อเติมไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ
หลีกเลี่ยงคาเฟอีน หลังบ่าย 2 โมง เนื่องจากออกฤทธิ์นาน 6-7 ชั่วโมง
# 4. ภัยร้ายจากการนอนน้อย: ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อ!
เสี่ยงบาดเจ็บ: การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง/คืน เพิ่มโอกาสบาดเจ็บ 1.7 เท่าในนักกีฬา
ภูมิคุ้มกันต่ำ: การนอนไม่พอลดประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว
สมรรถภาพลด: การตัดสินใจช้าลง ความแม่นยำลด 53% ในนักเทนนิส
💛 สรุปปัจจัยที่ช่วยให้การนอนส่งเสริมการฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้สูงสุด
ปัจจัย | คำแนะนำ |
ระยะเวลาที่นอน | ควรนอน 7–9 ชั่วโมง/คืน สำหรับผู้ใหญ่ |
คุณภาพการนอน | นอนหลับลึก (deep sleep) อย่างน้อย 1.5–2 ชั่วโมง |
เวลาเข้านอน | เข้านอน ไม่เกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายได้ GH สูงสุด |
เวลากินมื้อสุดท้าย | ควรห่างจากเข้านอน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง |
แสงจากหน้าจอ | งดใช้มือถือ/จอคอมก่อนนอน 1 ชั่วโมง ลดแสงฟ้า (blue light) |
การผ่อนคลายก่อนนอน | ฟังเพลงเบาๆ ทำสมาธิ หรืออาบน้ำอุ่นช่วยให้หลับดีขึ้น |
Comments