สเปิร์มมิดีน (Spermidine) เป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบได้ในอาหารหลายชนิดที่เรากินในชีวิตประจำวัน รวมถึง ถั่วเหลือง เห็ด ชีส และธัญพืช แต่รู้หรือไม่ว่า สเปิร์มมิดีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอย่างไร?
สเปิร์มมิดีน ช่วยควบคุมกระบวนการต่างๆ ของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งก็รวมไปถึง ความเสถียรของ DNA (DNA Stabilty), การเติบโตและการพัฒนาของเซลล์, apoptosis และ homeostasis นอกจากนี้ยังช่วยเชื่อมกระบวนต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานประสานกันและช่วยผนังเซลล์ในการควบคุมสภาวะกรดด่าง (pH) และการเข้าออกของสาร
ในงานวิจัยล่าสุด พบว่า สเปิร์มมิดีนเป็นสารช่วยชะลอวัยในสัตว์ (*) ด้วยการควบคุมการเจริญเติบโต, ช่วยการเติบโตและงอกของเส้นผมในคน และจากงานวิจัยนี้ก็มีผลต่อการชะลอวัยในคนด้วย ซึ่งสารสเปิร์มมิดีนเป็นหนึ่งในสารที่ ดร.เดวิด ซินแคลร์ (นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในงานวิจัยด้านชะลอวัย) เลือกรรับประทานเป็นอาหารเสริมทุกวัน (*)
งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า สเปิร์มมิดีน สามารถช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ รวมถึงโรคหัวใจและภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมกระบวนการ autophagy ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้ทำลายเซลล์ที่เสียหายและส่งเสริมให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมา และสเปิร์มมิดีนยังช่วยการทำงานของหน่วยความจําและการทํางานของความรู้ความเข้าใจให้ดีขึ้น เช่นเดียวกันยังได้ส่งเสริมการทํางานของตับให้มีสุขภาพดีอีกด้วย
ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายต่อสุขภาพ จึงไม่น่าแปลกใจที่สเปิร์มมิดีนกําลังได้รับความสนใจในฐานะอาหารเสริมสุขภาพจากธรรมชาติ ในบทความนี้เราจะเจาะลึกเชิงวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการทำงานสเปิร์มมิดีนและสํารวจว่าสารประกอบที่ทรงพลังนี้จะมีประโยชน์อย่างไร
บทความนี้เป็นเพียงการแนะนำถึงสรรพคุณเบื้องต้นของสารสเปิร์มมิดีนเท่านั้น ยังมีบทความวิจัยอีกหลายบทความที่จะนำมาเผยแพร่ สำหรับเป็นทางเลือกให้คนที่รักสุขภาพ และต้องการช่วยชะลอวัยให้ได้ผลยิ่งขึ้น โดยอ้างอิงจากงานวิจัยและการทดสอบทางคลินิกเป็นบรรทัดฐาน
⚪ รู้จัก สเปิร์มมิดีน (Spermidine) - คืออะไร และพบได้ที่ไหน?
สารสเปิร์มมิดีน (Spermidine) เป็นสารที่พบได้ในธรรมชาติ มีบทบาทสําคัญต่อการทํางานของเซลล์และการอยู่รอดของเซลล์ สเปิร์มมิดีนจัดอยู่ในกลุ่ม polyamine ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด แต่พบได้มากใน ถั่วเหลือง, เห็ด, ธัญญพืช, ชีส, ผลไม้และผักหลายชนิด เช่น เกรฟฟรุต, ส้ม และข้าวโพด เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบได้ในน้ำอสุจิของผู้ชาย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสาร
ปริมาณของสารสเปิร์มมิดีน (Spermidine) ในอาหารไม่แน่นอน ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ความสุกของผักและผลไม้, สภาพดินที่ปลูก และวิธีการนำมาแปรรูป แต่ถ้าไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป จะมีสารสเปิร์มมิดีนอยู่มากกว่า
สเปิร์มมิดีน (Spermidine) มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างไร?
สเปิร์มมิดีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งรวมถึง ช่วยการสร้างเซลล์ใหม่, ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น, เสริมการทำงานของตับให้แข็งแรง และช่วยเพิ่มความจําและการรับรู้ความเข้าใจ งานวิจัยล่าสุด ยังชี้ให้เห็นว่าสเปิร์มมิดีน ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคหัวใจ, ภาวะสมองเสื่อม และมะเร็ง
◼ สเปิร์มมิดีน และอายุขัย
สรรพคุณที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่งของของสเปิร์มมิดีน คือ การช่วยให้มีอายุยืนยาว มีการทำวิจัยในสัตว์ทดลองระบุว่า การให้สัตว์กินสเปิร์มมิดีน จะเพิ่มอายุขัยของสัตว์และสุขภาพโดยรวมดีขึ้น มีงานวิจัยเรื่องหนึ่งที่พบว่า หนูที่ได้รับอาหารที่มีสารสเปิร์มมิดีนสูง จะมีอายุขัยที่ยืนยาวกว่าและหัวใจก็ทำงานได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับหนูที่ได้รับอาหารที่ไม่มีสเปิร์มมิดีน
นักวิจัยเชื่อกันว่า บทบาทของสเปิร์มมิดีนต่อการข่วยเพิ่มอายุขัย น่าจะเป็นผลมาจาก กระบวนการ autophagy (การกำจัดของเซลล์ที่หมดสภาพและการช่วยให้เซลล์ใหม่เกิดเข้ามาแทนที่)
◼ สเปิร์มมิดีน (Spermidine) และช่วยการทำงานของสมอง
งานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า สเปิร์มมิดีนมีประโยชน์ต่อสมอง จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า การให้กินสเปิร์มมิดีนทุกวัน จะช่วยเพิ่มความจำ และการรับรู้ของสมอง ดังนั้นจึงมีการนำไปใช้ป้องกันการเสื่อมของสมอง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ พบว่า หนูที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มีสเปิร์มมิดีนสูง จะแสดงให้เห็นถึงการทํางานของ ความรู้ความเข้าใจของสมองดีขึ้นและหาทางออกเขาวงกตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าหนูที่ไม่ได้รับสเปิร์มมิดีน (*)
ประโยชน์ของ Spermidine ต่อการรับรู้และเข้าใจ เชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับความสามารถที่ช่วยการทํางานของสมองให้แข็งแรง ผ่านทางกลไก autophagy และลดการอักเสบ
◼ ประโยชน์ของสเปิร์มมิดีนต่อการทำงานของหัวใจ
สเปิร์มมิดีนมีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือดมากมาย จากการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่า การเสริมอาหารด้วยสเปิร์มมิดีน ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดและยังลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ จากการศึกษาในหนูทดลอง ที่ให้กินอาหารที่อุดมด้วยสเปิร์มมิดีน พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ลดลงต่ํากว่า และการทํางานของหัวใจและหลอดเลือดก็ดีขึ้นเมื่อเทียบกับหนูที่ไม่ได้รับสเปิร์มมิดีน
กลไกที่ช่วยเชื่อมโยงระหว่างสเปิร์มมิดีนและคุณสมบัติที่มีต่อหัวใจ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยยืนยันผลลัพธ์ที่ได้ในขณะนี้
◼ สเปิร์มมิดีน (Spermidine) และศักยภาพในการป้องกันมะเร็ง
จากงานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า สเปิร์มมิดีนมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับมะเร็ง การศึกษาในสัตว์ทดลองระบุว่า การเสริมอาหารด้วยสเปิร์มมิดีน สามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด (*) รวมถึงมะเร็งตับและมะเร็งลําไส้ใหญ่ ในการศึกษาที่ทำในหนูทดลอง ที่ได้อาหารที่อุดมด้วยสเปิร์มมิดีน มีอัตราการเกิดมะเร็งตับต่ํากว่าหนูที่ไม่ได้บริโภคสเปิร์มมิดีน
แม้ว่ากลไกที่ชัดเจนในการต้านมะเร็งของสเปิร์มมิดีน ยังคงถูกตรวจสอบกันอยู่ แต่นักวิจัยหลายคนเชื่อว่า น่าจะเชื่อมโยงกับความสามารถของสเปิร์มมิดีนในการส่งเสริมกระบวนการ autophagy และการยับยั้งการอักเสบ
◼ การเลือกกินอาหารที่มีสารสเปิร์มมิดีน
คนที่สนใจอาหารที่มีสารสเปิร์มมิดีนสูง ซึ่งจะพบได้มากในถั่วเหลือง, เห็ด, ธัญญพืช, ผลไม้และผักหลายชนิด เช่น เกรฟฟรุต, ส้ม และข้าวโพด เป็นต้น ประเด็นที่สำคัญคือ อาหารพวกนี้จะต้องไม่ผ่านกระบวนการหรือการปรุงแต่งอาหาร ที่จะทำให้สูญเสียคุณค่าดังที่กล่าวมาแล้ว
◼ อาหารเสริม สเปิร์มมิดีน (Spermidine Supplements)
การรับประทานอาหารที่มีสารสเปิร์มมิดีนสูงเป็นทางเลือกที่ดี แต่ในกรณีที่เรามีปัญหาเรื่องการดูดซึมสารอาหารและอายุที่มากขึ้นมีผลต่อระบบการย่อยและดูดซึม การรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสเปิร์มิดีน จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
อย่าลืมควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อได้รับคำแนะนําที่ถูกต้องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะได้แน่ใจว่าปลอดภัยสําหรับคุณ
🔳 ขนาดต่อวันที่เหมาะสมสำหรับสเปิร์มมิดีน?
จากงานวิจัยล่าสุดพบว่า สเปิร์มมิดีนมีประโยชน์ต่อการทำงานของเซลล์และช่วยเรื่องชะลอวัย (*) ปริมาณที่แนะนำให้กินต่อวันค่อนข้างแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานสเปิร์มมิดีนช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างเหมาะสมและยืดอายุเซลล์ได้ดี นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ดร,เดวิด ซินแคลร์เลือกรับประทาน วันละ 1 - 2 มก.ต่อวัน (*)
ถ้าคุณกินอาหารที่ครบหมู่ โอกาสที่จะได้รับสารสเปิร์มมิดีนที่เพียงพอต่อการทำงานของเซลล์ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ต้องการแน่ใจว่า ร่างกายได้รับสารสเปิร์มมิดีนที่เพียงพอ จึงเลือกรับประทานจากอาหารเสริม
🔳 อาการข้างเคียงและข้อควรระวัง
โดยทั่วไป, สเปิร์มมิดีน ถือว่าปลอดภัยสําหรับคนส่วนใหญ่, ไม่ว่าจะบริโภคผ่านอาหารหรือในรูปแบบของอาหารเสริม อย่างไรก็ตามควรพิจารณาข้อควรระวังบางประการ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สเปิร์มมิดีน อาจจะมีปฏิกิริยากับยาบางตัว เช่น ยากล่อมประสาทและยาต้านการแข็งตัวของเลือด ดังนั้น, การปรึกษาแพทย์และผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ก่อนที่จะเริ่มอาหารเสริมใหม่ใด จึงเป็นสิ่งสําคัญเพื่อความปลอดภัยของคุณ.
สรุป
สเปิร์มมิดีน ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ ที่พบได้ในอาหารหลากหลายชนิด มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึง การช่วยสร้างเซลล์ใหม่ที่สดกว่า, สนับสนุนการทํางานของตับให้แข็งแรง, เพิ่มความจําและการทํางานของความรู้ความเข้าใจ และยังช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคหัวใจ และ ภาวะสมองเสื่อม
#drbunlue #NMP #NMN #NAD #ChapaGroupAndMadePhuwiang #ย้อนวัยไปกับ_drbunlue #antiaging #ชะลอวัย #สุขภาพดี #tiktokสุขภาพ #ลืมป่วย #healthy #healthycare #healthyfood #ดูแลสุขภาพ #มณีแดง #RedGem #สเปิร์มมิดีน #Spermidine
Comments